จุกหูฟัง Spinfit สัมผัสนุ่มสบาย ไม่ล้าหู แถมเสียงดีขึ้นอีกต่างหาก !
สวัสดีครับทุกท่านวันนี้แอดมินมีรีวิวดีๆมาฝากอีกเช่นเคย สำหรับใครที่เคยใส่หูฟังแล้วรู้สึกเจ็บหู ใส่แล้วรู้สึกว่าเสียงทั้งสองข้างไม่เท่ากัน หรือ เบสออกข้างเดียว จุกหูฟัง Spinfit อาจช่วยแก้ปัญหา
เหล่านั้นได้ครับและขอบอกก่อนว่าไม่ได้มีดีแค่ใส่สบาย แต่ยังช่วยให้ได้เสียงที่เต็มประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วยครับ เจ๋งไปเลยใช่มั๊ย แล้วมันดียังไงล่ะ บทความนี้มีคำตอบครับ
จุกหูฟัง Spinfit มีดีอย่างไร ?
ก่อนอื่นเลยต้องขอพูดถึงข้อดีกันก่อนว่าจุกหูฟัง Spinfit แตกต่างจากจุกหูฟังทั่วไปยังไง สำหรับข้อดีของจุกหูฟัง Spinfit คือตัวจุกได้รับการออกแบบรูปทรงให้โค้งรับกับรูหูมากขึ้น และใช้เนื้อซิลิโคน
คุณภาพสูงที่ให้มีความนุ่มเป็นพิเศษทำให้สวมใส่ได้สบายไม่ระคายหูเลยครับ
อีกทั้งทุกรุ่นนั้นยังถูกออกแบบมาด้วยเทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะของ Spinfit ที่ทำให้แกนของจุกหูฟังสามารถปรับเอียงได้ ทำให้เมื่อใส่จุกหูฟังเข้าไปในหูแล้ว ตัวแกนเสียงจะปรับเอียงให้เข้ากับรูหูของผู้ใช้ ทำให้เสียงจากหูฟังส่งตรงถึงแก้วหูได้เต็มที่ ซึ่งช่วยให้ได้คุณภาพเสียงเบสและแหลมที่ดีขึ้น จนผู้ใช้รู้สึกได้ หากใครนึกไม่ออกให้ลองดูตามรูปด้านบนครับ อีกทั้งยังช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกเข้ามาในหูได้ดีขึ้นอีกด้วยครับ ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะช่วยให้ตัวจุกสามารถใช้งานได้กับทุกสรีระหูเลยครับ ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้จุกหูฟัง Spinfit นั้นเป็นที่นิยมสูง ซึ่งไม่ใช่แค่ในไทยเท่านั้น แต่นักฟังทั่วโลกต่างยอมรับในคุณภาพของจุก Spinfit ครับ เรื่องคุณภาพหายห่วงกันได้เลยครับ
สำหรับไซส์ของแกนจุกหูฟังแต่ละรุ่นจะมีขนาดไม่เท่ากันนะครับ ซึ่งตารางด้านบนจะแสดงขนาดความกว้างของแกนจุก Spinfit ไซส์ M ของแต่ละรุ่นและ ความกว้างท่อนำเสียงของหูฟังที่รองรับนะครับ
ใครที่อยากทราบว่าหูฟังของตัวเองจะใส่จุก Spinfit ได้ไหม ตารางนี้อาจจะพอช่วยได้บ้างครับผม แต่จะมีตารางแยกของแต่ละรุ่น แต่ละไซส์ให้อีกทีในบทความนี้ด้วยครับ โดยวันนี้แอดมินได้นำเอามาแนะนำ 5 รุ่นจะเป็นยังไงเราไปดูกันครับ
1.Spinfit CP100
ราคาคู่ละ 199 บาท
รุ่น CP100 ถือว่าเป็นรุ่นยอดนิยมเลยครับ เพราะเป็นจุกหูฟังรุ่นมาตรฐานที่สามารถใช้งานร่วมกับหูฟังได้อย่างมากมายหลายรุ่น เรียกได้ว่าแทบจะครอบคลุมกลุ่มหูฟังแบบมีสายเกือบทั้งหมดเลยก็ว่าได้ครับการสวมใส่นั้นถือว่าใส่ได้สบายตามมาตรฐานของ Spinfit เลยครับ คือ นุ่ม กระชับ ใส่นานๆไม่ล้าหูง่าย และเนื่องจากความกระชับในการสวมใส่ จะช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกและช่วยให้คุณภาพของเสียงดีขึ้นอีกด้วยครับ
สำหรับ CP100 นั้น จะสามารถใช้งานร่วมกับหูฟังมีสายทั่วๆไปได้แทบทุกรุ่นเลยครับโดยความกว้างเส้นผ่านศูนย์กลางของแกนจุกอยู่ที่ประมาณ 3.8 มม. ซึ่งหูฟังที่สามารถใช้งานร่วมกับจุกรุ่นนี้ได้ต้องมีความกว้างเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อนำเสียงที่ 3.8 – 5 มม. จึงจะสามารถใช้งานได้ครับ
2.Spinfit CP100z
ราคาคู่ละ 199 บาท
ต่อมาเป็นรุ่น CP100Z รุ่นนี้จะมีขนาดที่ใกล้เคียงกับรุ่น CP100 ปกติเลยครับ เพียงแต่จะแตกต่างกันก็ตรงที่ตัวแกนของ CP100Z นั้นจะสั้นกว่า CP100 อยู่เล็กน้อย ส่วนเรื่องความรู้สึกในการสวมใส่นั้นไม่แตกต่างกันเลยครับ นุ่ม กระชับ สวมใส่สบาย
CP100Z เหมาะกับหูฟังที่มีท่อนำเสียงที่สั้นกว่าปกติเล็กน้อยแต่ก็สามารถใช้งานได้กับหูฟังทั่วๆไปเหมือน CP100 ครับ โดยความกว้างเส้นผ่านศูนย์กลางของแกนจุกอยู่ที่ 4 มม. หูฟังที่สามารถใช้งานร่วมกับจุกรุ่นนี้ได้ต้องมีความกว้างเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อนำเสียงที่ 3.8 – 5 มม. และจุดเด่นอีกอย่างของรุ่นนี้คือสามารถใช้งานกับหูฟัง Truewireless ได้เช่นเดียวกับรุ่น CP360 อีกด้วยครับ (บางรุ่น) แม้รุ่นนี้ปัจจุบัน Spinfit
จะเลิกผลิตไปแล้ว แต่ในอนาคตอาจกลับมาผลิตใหม่อีกครั้งก็ได้ครับ
3.Spinfit CP145
ราคาคู่ละ 249 บาท
มาถึงรุ่นที่สามกับรุ่น CP145 รุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่มีแกนของจุกหูฟังยาวที่สุดครับ ทำให้เมื่อสวมใส่ จุกหูฟังจะสามารถสอดเข้าไปในหูได้ลึกมากกว่ารุ่นอื่นๆ ซึ่งมีข้อดีคือ จะช่วยให้เสียงที่เราได้ยินจากหูฟังมีคุณภาพมากขึ้นอีกด้วยครับ ยกตัวอย่างเช่น เบสแน่นขึ้น รายละเอียดเสียงชัดขึ้นนิดหน่อย เป็นต้น
สำหรับรุ่นนี้เนื่องจากมีแกนจุกหูฟังที่ยาวมากกว่ารุ่นอื่นๆ จึงเหมาะใช้งานกับหูฟังแบบมีสายเท่านั้น โดยสามารถใช้งานร่วมกับหูฟังแบบมีสายส่วนใหญ่ในท้องตลาดทั่วๆไปได้แทบทุกรุ่นเหมือนกับ CP100 และ
CP100Z ครับ โดยความกว้างเส้นผ่านศูนย์กลางของแกนจุกอยู่ที่ 4.5 มม. หูฟังที่สามารถใช้งานร่วมกับจุกรุ่นนี้ได้ต้องมีความกว้างเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อนำเสียงที่ 4 – 5 มม.ครับ
4.Spinfit CP360
ราคาแพ๊คละ 399 บาท (2คู่ 2ไซส์)
สำหรับ CP360 เป็นรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับหูฟัง Truewireless โดยเฉพาะเลยครับ สามารถใช้งานกับหูฟัง Truewireless ส่วนใหญ่ในท้องตลาดได้แทบจะทั้งหมดเลยครับ สำหรับจุดเด่นของรุ่นนี้จะมีตัวแกนที่สั้นกว่า CP100Z เล็กน้อย ทำให้เหมาะสำหรับใช้งานกับหูฟัง Truewireless ครับ
โดยความกว้างเส้นผ่านศูนย์กลางของแกนจุกอยู่ที่ 4-5 มม. หูฟังที่สามารถใช้งานร่วมกับจุกรุ่นนี้ได้ต้องมีความกว้างเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อนำเสียงที่ 4 – 5 มม.ครับ แต่ก่อนจะซื้อไปใช้งานกับหูฟัง Truewireless เราควรที่จะเช็คก่อนนะครับว่า จุก CP360 มีแกนยาวกว่าท่อของหูฟังนั้นๆหรือไม่ เพราะหากแกนจุกยาวกว่าท่อนำเสียงของหูฟัง เมื่อเก็บหูฟังลงกล่องชาร์จ จุกหูฟังจะดันกล่องชาร์จ ทำให้ตัวหูฟังชาร์จไม่ติดครับ ซึ่งก็มีบางรุ่นเมื่อใช้กับ CP360 ก็อาจพบเจอกับปัญหานี้เช่นกันครับ
5.Spinfit CP800
ราคาคู่ละ 239 บาท
มาถึงรุ่นสุดท้ายกันแล้วนะครับกับ CP800 จุกรุ่นนี้จะค่อนข้างพิเศษซักหน่อยเนื่องจาก ความกว้างของแกนจุกค่อนข้างจะเล็ก ทำให้สามารถใช้งานได้เฉพาะกับหูฟังที่มีท่อนำเสียงเล็กเท่านั้นครับ โดยความกว้างเส้นผ่านศูนย์กลางของแกนจุกอยู่ที่ 2 มม. เท่านั้น หูฟังที่สามารถใช้งานร่วมกับจุกรุ่นนี้ได้ต้องมีความกว้างเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อนำเสียงที่ 2 – 3 มม.ครับ ยกตัวอย่างเช่น หูฟังยี่ห้อ Westone / Shure เป็นต้น
6.Spinfit CP1025 (For Airpods Pro)
ราคา 599 บาท
สำหรับรุ่นนี้จะเป็นจุกอัพเกรดเฉพาะสำหรับหูฟัง Apple Airpods Pro เท่านั้นครับ ซึ่งผลิตโดยใช้ซิลิโคนคุณภาพสูงตามมาตรฐาน ISO10993 ในแพ๊คเกจจะมาพร้อมกับฐานจุก เอาไว้ประกอบกับตัวหูฟัง เพื่อให้ใช้งานจุกกับหูฟังได้ครับ
สรุป
ก็สำหรับเจ้าจุกหูฟัง Spinfit นะครับ เป็นจุกหูฟังที่คุ้มค่าแก่การจับจองเป็นอย่างมากเลยครับ ไม่ว่าจะความนุ่มของตัวจุก และเทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะของ Spinfit ที่แกนจุกสามารถเอียงเข้ากับสรีระหูของเรา ได้ทำให้สวมใส่หูฟังได้สบายและกระชับมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้เสียงจากหูฟังส่งตรงถึงแก้วหูได้เต็มที่ ทำให้ได้คุณภาพเสียงเบสและแหลมที่ดีขึ้นอีกด้วย โดยตัวแอดมินเองเป็นคนที่หาจุกหูฟังที่เข้ากับสรีระหูยากคนนึงครับ แต่พอได้มาลองใช้จุก Spinfit ก็ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีเลยครับ สวมใส่หูฟังได้กระชับมากขึ้น ไม่รำคาญเลยครับเวลาฟังเพลงนานๆ แถมเสียงดีขึ้นอีกด้วยครับ
ในส่วนของเรื่องเสียงที่เรากล่าวไว้ในตอนแรกว่าเมื่อใช้แล้วเสียงดีขึ้น วันนี้แอดมินได้ทำการทดลองใช้งานกับหูฟัง 2 รุ่นครับ โดยรุ่นแรกคือ KZ ZST-X 2020 และรุ่นที่สองคือ KZ ZSN PRO-X 2020
โดยสัมผัสแรกเมื่อสวมใส่ก็รู้สึกนุ่มและกระชับกว่าจุกเดิมของทั้งสองรุ่นพอสมควรครับ พอได้ลองเปิดเพลงฟังก็รู้สึกว่า เสียงจากหูฟังนั้นดีขึ้นเล็กน้อยครับ โดยเสียงย่านเบสหรือย่านต่ำสามารถลงได้ลึกขึ้น
และมีมิติขึ้นครับ ส่วนย่านเสียงแหลมรู้สึกว่าเสียงมีความเนียนขึ้นโดยเฉพาะตรงปลายตัวโน๊ตที่เก็บรายละเอียดได้เนียนขึ้นครับ โดยข้อดีเหล่านี้นั้นก็มาจากความกระชับที่มากขึ้นที่ได้จากตัวจุกหูฟังนี้เองครับ
เพราะเมื่อหูฟังสอดรับกับสรีระหูได้พอดี ทำให้เสียงจากหูฟังส่งตรงถึงแก้วหูได้เต็มที่ ส่งผลให้รู้สึกว่าเสียงมีคุณภาพมากขึ้นเมื่อใช้งานกับจุก Spinfit ครับผม